Skip to content
Country Flag NZ
کشور را انتخاب کنید
انتخاب کشور ما فقط کارگزاران و اطلاعات مربوط به کشور شما را نمایش خواهیم داد.
کشور انتخاب شده در حال حاضر
کشور دیگری را انتخاب کنید
زبان محتوای ترجمه شده به زبان خود را ببینید.

ไทม์มิ่งของตลาดคืออะไร?

นักวิชาการหลายคนจะบอกคุณว่าตลาดเป็นแบบสุ่มและมีประสิทธิภาพ และด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามคาดการณ์ราคาของหลักทรัพย์ทางการเงินใดๆ ในทางกลับกัน มีความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามซึ่งถือว่าการเคลื่อนไหวของราคาสามารถคาดการณ์ได้ด้วยเครื่องมือและโมเดลจังหวะเวลาที่เหมาะสม

|
به روز شدOct 2, 2024
1 دقیقه خواندن

นักวิชาการหลายคนจะบอกคุณว่าตลาดเป็นแบบสุ่มและมีประสิทธิภาพ และด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามคาดการณ์ราคาของหลักทรัพย์ทางการเงินใดๆ ในทางกลับกัน มีความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามซึ่งถือว่าการเคลื่อนไหวของราคาสามารถคาดการณ์ได้ด้วยเครื่องมือและแบบจำลองเวลาที่เหมาะสม กลุ่มสุดท้ายนี้สนับสนุนเรื่องจังหวะเวลาของตลาด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อจังหวะเวลาของตลาด ซึ่งจะเป็นจุดสนใจของบทความนี้ใน บล็อก Forex ของเรา

คำจำกัดความของจังหวะเวลาของตลาด

จังหวะเวลาของตลาดหมายถึงแนวทางปฏิบัติในการซื้อและขายสินทรัพย์ เช่น หุ้นและพันธบัตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา เป้าหมายของจังหวะเวลาของตลาดคือการระบุและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดที่จะนำไปสู่การเพิ่มหรือลดราคาของราคา

สิ่งนี้ต้องใช้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเงิน ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลกระทบต่อตลาด รวมถึงความสามารถในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้อย่างแม่นยำ

จังหวะของตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุน เนื่องจากมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการซื้อและถือครองสินทรัพย์ในระยะยาว

การระบุและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาด นักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ซึ่งอาจเพิ่มผลตอบแทนโดยรวมได้

อย่างไรก็ตาม จังหวะของตลาดยังเกี่ยวข้องกับระดับความเสี่ยงที่สำคัญเช่นกัน เนื่องจากต้องใช้จังหวะที่แม่นยำและอาจนำไปสู่การสูญเสียได้หากทำไม่ถูกต้อง

ทำความเข้าใจจังหวะของตลาด

กลยุทธ์นี้ใช้วิธีการวิเคราะห์ตลาดดังต่อไปนี้:

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

The การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้มากที่สุดในการวัดจังหวะเวลาของตลาด โดยเกี่ยวข้องกับการศึกษาแผนภูมิและตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มของราคาสินทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด รวมถึงตัวบ่งชี้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ตัวบ่งชี้ Relative Strength Index (RSI) และตัวบ่งชี้ Moving Average Convergence and Divergence (MACD) , Moving Average Convergence Divergence)

ข้อดีของการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็คือ สามารถใช้วิเคราะห์สินทรัพย์ใดๆ ที่ซื้อขายในตลาดได้ รวมถึงหุ้น พันธบัตร สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์

ยังเป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างง่าย (เข้าและออกจากตลาด) และนำไปใช้ได้ตรงไปตรงมามาก ทำให้นักลงทุนในวงกว้างสามารถเข้าถึงได้

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีแนวโน้มที่จะสร้างสัญญาณที่ผิดพลาด และมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นอัตนัยและมีแนวโน้มที่จะมีอคติของมนุษย์

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถใช้ในการจับเวลาตลาดได้ โดยเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเงินที่ซ่อนอยู่ซึ่งขับเคลื่อนราคาสินทรัพย์ เช่น ผลกำไรของบริษัท อัตราดอกเบี้ย และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ

โดยการทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้และผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ นักลงทุนจึงสามารถตัดสินใจโดยมีข้อมูลครบถ้วนว่าเมื่อใดจะซื้อหรือขายสินทรัพย์ในตลาดหุ้น

ข้อดีของ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน คือ มีพื้นฐานอยู่บนข้อมูลที่เป็นกลาง ทำให้มีแนวโน้มที่จะตีความเชิงอัตนัยน้อยกว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ยังให้มุมมองระยะยาวเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด ซึ่งสามารถช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจลงทุนเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอาจใช้เวลานานและต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวคิดทางเศรษฐกิจและการเงิน

การวิเคราะห์เชิงปริมาณ

การวิเคราะห์เชิงปริมาณเป็นกลยุทธ์ขั้นสูงสำหรับจังหวะเวลาของตลาดที่เกี่ยวข้องกับการใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์และวิธีการทางสถิติเพื่อทำนายความเคลื่อนไหวของตลาด

แนวทางนี้อาศัยข้อมูลจำนวนมากและอัลกอริธึมที่ซับซ้อนเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มของราคาสินทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยำมากขึ้นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตของสินทรัพย์ทางการเงินใดๆ

ข้อดีของการวิเคราะห์เชิงปริมาณคือสามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ ทำให้มองเห็นแนวโน้มของตลาดได้ครบถ้วนมากกว่ากลยุทธ์อื่นๆ

มันยังมีแนวโน้มที่จะมีอคติของมนุษย์น้อยกว่าด้วย เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับข้อมูลเชิงวัตถุและแบบจำลองทางคณิตศาสตร์

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เชิงปริมาณอาจมีความซับซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในระดับสูง ทำให้นักลงทุนหรือผู้จัดการภาคส่วนบางส่วนเข้าถึงได้น้อยลง

(หากต้องการดูวิธีการใช้กลยุทธ์จังหวะเวลาของตลาดที่แตกต่างกันโดยละเอียด คุณสามารถไปที่บทความของเรา “การประเมินกลยุทธ์จังหวะเวลาของตลาดที่แตกต่างกัน“)

ความเสี่ยงและความท้าทายของจังหวะเวลาของตลาด

ต่อไปนี้คือความเสี่ยงและความท้าทายบางส่วนที่เทรดเดอร์ควรทราบเมื่อใช้จังหวะเวลาของตลาด:

ข้อผิดพลาดด้านเวลา

หนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของการกำหนดเวลาของตลาดคือข้อผิดพลาดด้านเวลาอย่างแม่นยำ เป็นเรื่องยากที่จะกำหนดเวลาตลาดหุ้นได้อย่างแม่นยำ และแม้แต่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยในเรื่องเวลาก็อาจนำไปสู่การสูญเสียที่สำคัญได้

นักลงทุนที่พิจารณาจังหวะเวลาของตลาดควรมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด และสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้อย่างแม่นยำ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

จังหวะเวลาของตลาดยังเกี่ยวข้องกับการซื้อขายในระดับที่สูงกว่ากลยุทธ์การซื้อและถือ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสูงขึ้น ต้นทุนเหล่านี้อาจส่งผลต่อผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น และลดประสิทธิภาพโดยรวมของจังหวะเวลาของตลาดในฐานะกลยุทธ์การลงทุน

อคติทางจิตวิทยา

สุดท้าย จังหวะเวลาของตลาดอาจได้รับผลกระทบจากอคติทางจิตวิทยา เช่น ความกลัวและความโลภ อคติเหล่านี้อาจทำให้เทรดเดอร์ตัดสินใจโดยใช้อารมณ์และสัญชาตญาณโดยพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น แทนที่จะใช้วิธีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว ส่งผลให้กำไรจากการซื้อขายของเราลดลง

เครื่องมือและทรัพยากรที่มีให้สำหรับการกำหนดเวลาของตลาด

นี่คือเครื่องมือและแหล่งข้อมูลบางส่วนที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อจับเวลาตลาด:

ข่าวทางการเงิน

การติดตามข่าวสารทางการเงินล่าสุดเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดเวลาของตลาด แหล่งข่าวทางการเงิน เช่น Bloomberg, CNBC และ The Wall Street Journal ให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับแนวโน้มและพฤติกรรมของตลาด และสามารถช่วยให้นักวิเคราะห์และผู้ซื้อขายทำได้ดีขึ้น การตัดสินใจเกี่ยวกับเวลาจะซื้อหรือขายในตลาดหุ้นเพื่อทำกำไร

ซอฟต์แวร์สร้างแผนภูมิ

ซอฟต์แวร์สร้างแผนภูมิเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญสำหรับจังหวะเวลาของตลาด ซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ข้อมูลราคาในอดีตและระบุแนวโน้มและรูปแบบราคาสินทรัพย์ได้

ซอฟต์แวร์สร้างกราฟยอดนิยมบางตัว ได้แก่ TradingView,StockCharts.com และแน่นอน MetaTrader

ผู้ให้บริการข้อมูลการตลาด

สุดท้ายนี้ ผู้ให้บริการข้อมูลการตลาด เช่น บริษัท Bloomberg และ Thomson Reuters ให้ข้อมูลตลาดที่ตรงเวลาและการวิเคราะห์จริงที่สามารถนำไปใช้กับตลาดได้ เวลา ผู้ให้บริการเหล่านี้นำเสนอการเข้าถึงข้อมูลตลาดมากมาย รวมถึงข้อมูลราคาในอดีต ข่าวสาร และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ

เมื่อใดควรใช้ Market Timing

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าเมื่อใดจึงเหมาะสมที่จะใช้จังหวะเวลาของตลาด:

ความผันผวนของตลาดสูง

หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้จังหวะเวลาของตลาดในการซื้อขายคือในช่วงเวลาที่มีความผันผวนของตลาดสูง เมื่อตลาดประสบกับความผันผวนของราคาอย่างมาก เทรดเดอร์สามารถใช้จังหวะเวลาของตลาดเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นและอาจสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

โปรดทราบว่าจังหวะเวลาของตลาดในช่วงเวลาที่มีความผันผวนก็อาจเป็นความเสี่ยงได้เช่นกัน เนื่องจากต้องใช้จังหวะเวลาที่แม่นยำ และอาจนำไปสู่การสูญเสียได้หากการคาดการณ์ความเชื่อมั่นของตลาดไม่ถูกต้อง

การเกิดขึ้นของเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อราคา

เวลาอื่นที่ต้องพิจารณาจังหวะของตลาดคือเมื่อมีเหตุการณ์เฉพาะที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์

ตัวอย่างเช่น ใน การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย (เช่น การเพิ่มขึ้นล่าสุด) เหตุการณ์ทางการเมืองและการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ รวมถึงตัวแปรอื่นๆ และสามารถใช้จังหวะเวลาของตลาดเพื่อใช้ประโยชน์ ของเหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใกล้จังหวะเวลาของตลาดในช่วงเวลาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเหตุการณ์อาจคาดเดาได้ยากและการเคลื่อนไหวของตลาดอาจคาดเดาไม่ได้เพื่อให้เข้าที่ดีในระดับที่ผู้ซื้อขายกำหนด

การยอมรับความเสี่ยงสูงของนักลงทุน

สุดท้ายนี้ จังหวะเวลาของตลาดอาจเหมาะสมสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ที่มีการยอมรับความเสี่ยงสูง และพอใจกับระดับความเสี่ยงที่สูงกว่า

จังหวะเวลาของตลาดเป็นกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกมากกว่าแนวทางซื้อและถือ และต้องการประสบการณ์และความเอาใจใส่ในตลาดในระดับที่มากขึ้น

สำหรับนักลงทุนที่ยินดีรับความเสี่ยงมากขึ้น จังหวะของตลาดสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

เมื่อใดที่จะไม่ใช้ Market Timing

แม้ว่าจังหวะเวลาของตลาดอาจเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกรายหรือทุกสถานการณ์ มีหลายครั้งที่อาจเป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจังหวะเวลาของตลาดโดยสิ้นเชิง

การยอมรับความเสี่ยงต่ำของผู้ลงทุนระยะยาว

สถานการณ์หนึ่งที่จังหวะเวลาของตลาดอาจไม่เหมาะสมคือเมื่อนักลงทุนมีการยอมรับความเสี่ยงต่ำ จังหวะเวลาของตลาดเป็นกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกมากกว่าแนวทางซื้อและถือ และอาจมีความเสี่ยงหากทำไม่ถูกต้อง

สำหรับนักลงทุนที่ไม่พอใจกับระดับความเสี่ยงที่สูงขึ้น กลยุทธ์การซื้อและถืออาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แม้ว่าจะได้กำไรน้อยกว่าก็ตาม

ขาดประสบการณ์

จังหวะเวลาของตลาดอาจไม่เหมาะสมเมื่อนักลงทุนไม่มีประสบการณ์หรือทรัพยากรในการจับเวลาตลาดอย่างแม่นยำ

จังหวะเวลาของตลาดจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด และความสามารถในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้อย่างแม่นยำ

สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ที่จำเป็นหรือเข้าถึงข้อมูลตลาด จังหวะเวลาของตลาดอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม

การเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้

การเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่กำลังพิจารณาใช้จังหวะเวลาของตลาดเป็นกลยุทธ์การลงทุน

แม้ว่าจังหวะเวลาของตลาดอาจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ก็ต้องใช้จังหวะเวลาและการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดอย่างแม่นยำ

เมื่อตลาดไม่สามารถคาดเดาได้ นักลงทุนอาจคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นอย่างแม่นยำได้ยาก ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

บทสรุป

จังหวะเวลาของตลาดคือ กลยุทธ์การลงทุน ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ตามการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้น จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและความสามารถในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้อย่างแม่นยำ

มีกลยุทธ์การวิเคราะห์หลายประการที่สามารถใช้เพื่อจับเวลาตลาด รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์เชิงปริมาณ หากต้องการใช้จังหวะเวลาของตลาดเป็นกลยุทธ์การลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยให้นักลงทุนมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์เมื่อใด สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใกล้จังหวะเวลาของตลาดด้วยความระมัดระวังและใช้ร่วมกับกลยุทธ์การลงทุนอื่นๆ เนื่องจากจังหวะเวลาของตลาดมีความเสี่ยงที่สูงกว่า

นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงและความท้าทายของจังหวะเวลาของตลาด รวมถึงข้อผิดพลาดด้านจังหวะ ต้นทุนการทำธุรกรรม และอคติทางจิตวิทยา เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ นักลงทุนควรเข้าใกล้จังหวะเวลาของตลาดด้วยความระมัดระวัง และขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความมั่งคั่ง

فهرست مطالب